หา"ความสุข"ด้วยวิธีง่ายๆ
คอลัมน์ แท็งก์ความคิด โดย นฤตย์ เสกธีระ max@matichon.co.th
มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์สารคดีรายการ "คนค้นฅน" ที่เขาติดตามทำเรื่องของ ท่านปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ดูรวดเดียวจบ พร้อมกับความรู้สึกอิ่มใจ และเข้าใจแล้วว่า ความสุขที่หลายคนแสวงหาแล้วไม่เจอนั้น ความจริงแล้วอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย ถ้าจำไม่ผิดท่านปัญญามีอายุเกือบร้อยปีแล้ว หากเป็นคนปกติอายุปูนนี้คงจะรอเวลาสิ้นบุญ เหมือนกับที่ผู้เฒ่าผู้แก่เคยแซวกันเองว่า อายุปูนนี้ขอแค่ขยันหายใจเข้าไว้เป็นพอ แต่ท่านปัญญาไม่ได้ทำเช่นนั้นวันนี้ท่านอายุ 96 ปี ท่่านยังมุ่งมั่นที่จะทำงานในหน้าที่เผยแผ่พุทธศาสนาอย่างไม่ละความพยายาม แม้สังขารจะร่วงโรย ร่ายกายจะเหี่ยวย่น แถมมีโรคเบาหวานคอยทิ่มแทง แต่หัวใจและสมองของท่านปัญญายังแจ่มใสเดินไม่ไหวแต่ยังพูดได้ การทำงานตามวิถีแห่งสาวกพระพุทธองค์จึงไม่สะดุดภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ติดตามการดำเนินชีวิตของท่านปัญญาตั้งแต่เช้า รับกิจนิมนต์ไปทุกแห่ง จนกระทั่งเย็น และเข้าจำวัด ภารกิจของท่านปัญญาแน่นเอี้ยด แทบไม่มีเวลาล่าง คิวงานมีมาอย่างต่อเนื่องแต่ท่านยังทำงานอย่างมีความสุข
เคล็ดลับความสุขของท่านปัญญา เท่าที่สัมผัส ก็คือ ความรักในงานของตัวเองท่านปัญญามีความสุขที่ได้ทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาทำงานด้วยความรัก ความศรัทธาว่า สิ่งที่ได้กระทำไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ผู้อื่นหัวใจท่านปัญญาจึงเปี่ยมสุข
ก็ในเมื่อท่านปัญญายังเปี่ยมสุขจากงานที่ทำได้ แล้วทำไมเราจะไม่นำเอาวิธีการของท่านปัญญามาปรับใช้กับตัวเองบ้างล่ะครับเผื่อเราจะเปี่ยมสุขอย่างท่านบ้างความจริง มนุษย์ทุกคนที่เกิดมา ล้วนแล้วแต่ต้องการ "ความสุข" กันทั้งนั้น
มาสโลว์ (Maslow) นักจิตวิทยาชื่อดังบอกว่า ความต้องการของมนุษย์แบ่งออกเป็น 5 ขั้น คือ
ขั้น 1 ความต้องการทางกาย คือความต้องการปัจจัยสี่ ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ยารักษาโรคจากนั้นเข้าสู่
ขั้นที่ 2 คือต้องการความมั่นคงปลอดภัย
ขั้นที่ 3 ต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม
ขั้นที่ 4 ต้องการได้รับการยกย่องจากผู้อื่น ว่าตัวข้านี้เจ๋ง น่ารัก รูปหล่อ สวยงาม เก่งจัง อะไรทำนองนี้และ
ขั้นที่ 5 หรือขั้นสุดท้ายคือ ต้องการเข้าใจตนเอง
ใครมีครบ 5 ขั้นนี้รับรองมีความสุขท่านปัญญามีครบทั้ง 5 ขั้น
ท่านจึงมีความสุขและเผื่อแผ่ความสุขให้แก่ผู้คนที่เข้าไปนมัสการส่วนพวกเราก็สามารถเข้าถึงความสุขแบบท่านได้เหมือนกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาหลายคนหลงทางหลายคนลืมไปแล้วว่า สาเหตุที่พ่อแม่ส่งให้เราเรียนกันสูงๆ บอกให้เราทำแต่ความดี ขยันขันแข็งในการทำงาน และอื่นๆ ก็เพราะสิ่งเหล่านั้นจะนำพาเราไปสู่ "ความสุข" พวกเราลืมไปว่าเป้าหมายในชีวิตมนุษย์คือการอยู่อย่างมี "ความสุข" มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการนอกจากจะเพื่อเอาตัวรอดจากสิ่งแวดล้อมแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อความสุขสบายของตัวเองและพวกพ้องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาได้ก็เพราะมนุษย์ต้องการแสวงหาความสุขจากสิ่งเหล่านั้น
สรุปก็คือมนุษย์มีทำสิ่งต่างๆ ก็เพื่อเป้าหมายแห่ง "ความสุข" การเดินทางไปสู่ความสุขนั้น มีหลากหลายวิธี แต่ที่แปลกก็คือ มนุษย์กลับเลือกวิธีที่ "ยาก" ทั้งๆ ที่วิธีที่ "ง่าย" กว่านั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมวิธีที่ว่ายากนั้น คือ การแสวงหาความสุขจากความอยากเป็นที่หนึ่งในโลก ที่หนึ่งในประเทศ ที่หนึ่งในองค์กร เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่หนึ่ง หลายคนจึงยอมทำชั่ว เพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้นมาครอง โดยคิดว่านั่นแหละคือความสุข ซึ่งต้องยอมรับว่าคนที่สามารถก้าวไปสู่ตำแหน่งที่หนึ่งได้ เขาคนนั้นต้องมีความสุขแน่ เพียงแต่ความสุขของเขาไม่ได้เกิดจากตำแหน่งที่หนึ่ง หากแต่เกิดจากความสำเร็จในชีวิต ก็ในเมื่อเป้าหมายในชีวิตของเราคือความสุขก็ในเมื่อความสุขเกิดจากการประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วเราจะเลือกวิธีที่ยากๆ ต้องเข่นฆ่า ฟันฝ่าผู้คนจำนวนมากเพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งที่มีอยู่น้อยกันทำไม
เราใช้วิธีง่ายๆ แต่มีความสุขไม่ดีกว่าหรือ วิธีการง่ายๆ ที่ว่า คือ
การสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง อุปกรณ์การสร้างความสำร็จ ประกอบด้วย
1.ตัวคนที่อยากมีความสุข
2.การงานในหน้าที่ของคนที่อยากมีความสุข
วิธีทำ คือ ทำงานในหน้าที่ของตัวเองจนเสร็จเหมือนกับที่ท่านปัญญา นันทภิกขุ กระทำตนให้เป็นตัวอย่างอยู่นี่ไงความสุขของท่านปัญญาเกิดจากการทำงาน พอทำงานเสร็จ ความสำเร็จก็เกิดขึ้นเมื่อความสำเร็จเกิด ความสุขก็เกิดขึ้นแก่ผู้ทำงาน
วันนี้ท่านปัญญาจึงมีความสุข ผิดกับผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่หลงผิด คิดว่าความสุขมาจากการอู้งาน หารู้ไม่ว่า เมื่อเราหลีกเลี่ยงการทำงาน ก็เท่ากับเราปิดกั้นความสำเร็จของตัวเอง เมื่อชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ ความสุขจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไง เห็นไหมว่า ความสุขอยู่แค่เอื้อม เพียงแค่เริ่มต้นทำงานที่กองอยู่ตรงหน้าให้เสร็จ แค่เริ่มต้นจัดเอกสารบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ เก็บข้าวของเข้าที่ จัดตารางการทำงาน และเริ่มทำงานตามแผนที่วางไว้ แค่นี้ความสำเร็จก็เริ่มก่อตัว เค้าแห่งความสุขก็เริ่มแลเห็นและเมื่อใดที่เราทำงานเสร็จ ความสำเร็จก็เกิด ความสุขก็ตามมาเห็นไหมว่า ความสุขเกิดขึ้นได้จากการทำงานเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต จากที่เคยอู้งาน มาเป็นขยันทำงานแค่นี้ก็สามารถสร้างความสุขได้แล้ว เริ่มจากความสุขเล็กๆ แล้วความสุขใหญ่ ๆก็จะเกิดขึ้นเองในอนาคต
ที่มา: 1. หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10802 หน้า 17 2. http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... &day=2007- 10-07§ionid=0140