เพลงมาร์ชศรีสังวร
ศรีสังวรบริการด้วยดวงใจ ห่วงใยมวลน้องพี่
สมัคสมานต่อกันฝากสัมพันธ์ไมตรี อย่ามีวันแยกแตกสลาย
เลือดเราสีเดียวกันจะรักกันจนตาย อย่ารู้คลายศรีสังวรจำให้มั่น
สวยมองเพลินสวยเกินดูเด่นกว่าใคร สดใสงามลือลั่น
ร่วมชีวิตจิตใจร่วมสายใยเดียวกัน มุ่งสร้างสรรค์บริการสดใส
พวกเราสามัคคีมุ่งภักดีรวมใจ เชิดชูไว้ซึ่งความดีศรีสังวร.....
ประวัติความเป็นมาของเพลงนี้ เล่าสู่กันฟังนะครับ
เดิมเลยก่อนที่ข้าพเจ้าจะเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลนี้ก็มีเพลงนี้ร้องกันอยู่แล้ว กว่าสิบปีมาแล้วละครับ ส่วนก่อนมานานเท่าไรคงต้องถามคนที่เก่า ๆ กว่ารุ่นข้าพเจ้า แต่เนื้อเพลงจะแตกต่างกว่านี้พอสมควร ใช้ร้องกันในงานกีฬาสี เปิดเสียงตามสายทั่วไป ผู้แต่งเดิมก็ไม่ทราบว่าเป็นท่านใด (หรือถ้าท่านใดมีข้อมูลก็มาเล่าสู่กันฟังนะครับ) หลังจากข้าพเจ้ามาทำงานในโรงพยาบาลนี้ไม่กี่ปี ประมาณปี ๒๕๓.. โรงพยาบาลของเราจัดอบรมโอดี โดยไปจัดอบรมกันที่เชียงใหม่ไปกันหลายรุ่นรวมแล้วไปกันทั้งหมดโรงพยาบาล โดยมีท่านผู้อำนวยการประวิทย์ หาเรือนศรี ของเราเป็นแม่งาน ก็ได้มีการนำเพลงนี้มาปัดฝุ่น (ของเก่าๆ จะมีฝุ่นจับ) เพื่อใช้ในการอบรมและเป็นเพลงประจำโรงพยาบาลของเราด้วย ข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสใช้ความสามารถทางดนตรีอันน้อยนิดที่มี ร่วมกับคุณพี่กิตติ คล้ายบุญ ที่ช่วยปรับปรุงเนื้อเพลงจากของเดิมมาเป็นตามที่ได้ฟังกันอยู่นี่แหละครับ ส่วนตัวข้าพเจ้าก็รับหน้าที่เรียบเรียงดนตรีขึ้นมาใหม่ หลังจากทำดนตรีเสร็จแล้วก็ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องชาวศรีสังวรของเราในตอนนั้นนั่นแหละครับมาช่วยกันร้อง เห็นไหมครับไม่ต้องใช้ทรัพยากรจากภายนอกเลยครับ เท่าที่จำได้ในส่วนนักร้องก็มี พี่ปุ๊สมปอง ตันเจริญ พี่ต๋อยวันทิพย์ ชมกลิ่น พี่เจี๊ยบวนิชา เรือนคำ พี่กบภานี เภาหว่าง ....และพี่ๆ อีกหลายคน เกือบๆ ยี่สิบ ต้องขออภัยที่จำได้ไม่ครบ มาช่วยกันร้อง เราบันทึกเสียงกัน ณ ห้องบันทึกเสียงที่ได้มาตรฐาน ก็....ห้องประชุมตึกอำนวยการเดิมของเราเองนี่แหละครับ หลังจากที่ได้ฝึกร้องกันพอสมควรก็ไม่นานหรอกครับ ก็จับนักร้องเกือบๆ ยี่สิบที่ว่ายัดเข้าห้องอัด บรรยากาศตอนนั้นก็สนุกสนาเฮอาตามประสาพี่น้อง แต่ก็ทรมานนิ๊ดนึงตรงที่บรรดานักร้องทั้งหลายรวมทั้งซาวด์เอ็นจิเนียร์(ข้าพเจ้าเอง..อิๆ ๆ) ต้องทนกับความร้อนและอึดอัดกันพอสมควรเพราะเราต้องปิดแอร์ร้องเพลงกัน เนื่องจากแอร์มันดังอ่ะครับเสียงแอร์จะรบกวนการบันทึกเสียง ก็ต้องร้องกันหลายสิบเที่ยวเหมือนกันครับแต่ก็ไม่มีใครบ่นตั้งอกตั้งใจร้องกันจนได้เป็นเพลงที่เราฟังกันอยู่ทุกวันนี่แหละครับ
ขอย้ำนะครับเอามาเล่าสู่กันฟังเตือนความจำตามประสาที่ว่า..ของกินไม่ได้กินมันจะเน่า เรื่องเก่าไม่ได้เล่ามันจะลืม...ไม่ได้มีเจตนาหรือประสงค์อื่นใดนะครับ ขอบคุณครับ
ภัทรวรรธน์ ศรีนิติพัฒน์